วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วิธีการเลือก สีย้อมผม


วิธีการเลือก สีย้อมผม
ช่างผม ช่างเสริมสวย ต้องมีความรู้เรื่องของ สีผม ว่าสีใดเหมาะกับวัย หรือสีใดเหมาะกับผิวของลูกค้า ซึ่งผิวของคนโดยทั่วไปนั้นจะมีสีเปลี่ยนแปลงไปตามวัย สีผม ตามธรรมชาติของคนเรา ซึ่งเหมาะกับอายุ 20 ปีหรือ 30 ปีนั้น พออายุได้ 40 ปีหรือ 50 ปี อาจจะไม่เหมาะก็ได้ สำหรับผู้รับบริการที่มีอายุอยู่ในสูงวัยควรจะใช้สีที่อ่อนเข้าไว้ก่อน
-ส่วนสตรีที่ยังสาว ที่มีผิวเนื้อขาวนวลนั้น จะย้อมผมให้เป็นสีอะไรก็ได้ทั้งนั้น
-สำหรับผู้ที่มีผิวออกชมพูหรือแดง ผมควรออกเป็นสีขี้เถ้า จะย้อมสีแก่หรืออ่อนก็ได้แล้วแต่วัยหรือผิว
ผู้ที่มีผิวค่อนข้างดำนวล จะเลือกสีได้ตั้งแต่สีบรอนซ์ แล้วค่อยๆ แก่จนเป็นสีน้ำตาบบางทีใช้สีแก่มากๆ ก็ได้
-ผู้ที่มีผิวเหลืองหรือน้ำตาล ไม่ควรใช้ยาย้อมผมที่ค่อนข้างเป็นสีขี้เถ้าเป็นอันขาด ในการพิจารณาเลือกยาย้อมผมนี้ ควรศึกษาเรื่องสีโดยเฉพาะ
ประโยชน์ของการ ย้อมผม
1.ทำให้ ผมหงอก กลายเป็น ผมดำ หรือเป็นสีธรรมชาติอย่างเดิม
2.เปลี่ยนสีตามธรรมชาติ ให้เป็นสีที่ต้องการ
3.รักษาผมให้มีสีธรรมชาติ ให้เป็นสีที่ต้องการ
4.ทำให้เกิดความสวยงามในการตกแต่ง เช่น ทำให้ ผมเป็นสีขาว ทำให้เกิดแนวผมอีกสีหนึ่งที่ต่างออกไปจากเดิม
5.เพื่อเป็นการ แก้ไขผม ซึ่งเสียไปเพราะการย้อมหรือการฟอกให้สีจางลง
หลักการ ย้อมผม ต้องศึกษาดังนี้
1.ในการสังเกต สีผม นั้น ผม จะต้องแห้งและสะอาดถ้าผมสกปรกจะทำให้ได้สีค่อนข้างแก่
2.ใช้ระดับที่แสดงสีต่างๆ ระดับสีตั้งแต่แก่ไปจนถึงอ่อน อ่านดูชื่อและหมายเลขที่กำหนดไว้
3.เปรียบเทียบผมของผู้รับบริการกับระดับของสีที่ใกล้เคียงที่สุด
4.พิจารณาว่า จะเลือกสีระดับใด จึงจะเหมาะกับผม อาจมากกว่าหนึ่งระดับ
5.ในการเปรียบเทียบสีของผมกับสีในระดับสีนั้น ให้เปรียบกับผมตรงที่ใกล้หนังศีรษะ (ด้านหลัง) เพราะบริเวณนี้ผมจะสีเข้มที่สุด
6.เวลาจะพิจารณาสีของผม ให้ใช้มือจับผมดึงขึ้นมา หรือใช้มือแหวกผมดู
7.ช่างเสริมสวย จำเป็นต้องรู้และเข้าใจข้อความชี้แจงของผู้ผลิตน้ำยาย้อมผมของแต่ละรายให้ละเอียด
คำแนะนำในการย้อมผม
1.ควรทำการทดลองย้อมผมล่วงหน้าก่อนการย้อมผม 24 ชั่วโมง
2.ถ้าหนังศีรษะเป็นแผล หรือถลอกไม่ควรย้อมผม
3.แปรง หวี ผ้าคลุม ขวดใส่น้ำยาย้อมและเครื่องใช้อื่นๆ ในการย้อมผมจะต้องสะอาด
4.ก่อนย้อมผม ไม่ควรแปรงผม
5.ก่อนใช้น้ำยาย้อมผม ควรอ่านคำชี้แจงที่ติดมากับกล่องให้เข้าใจ
6.ทดลองย้อมผมดูสักปอยหนึ่ง เพื่อดูสีดูความเปราะของเส้นผม
7.การเลือกสีย้อม ควรเลือกให้เข้ากับสีผิว
8.ถ้วยหรือภาชนะที่ใส่น้ำยา ควรเป็นพลาสติกหรือแก้ว
9.น้ำยาที่เหลือจากการย้อมผม (ที่แบ่งมาใส่ขวดหรือถ้วยแก้วแล้ว) ควรทิ้งไป การผสมน้ำยาก็ไม่ควรทำไว้ก่อนนานๆ
10.ควรแนะนำผู้รับบริการแก้ไขผมที่เสียให้ดีเสียก่อน
11.ถ้าการทดลองย้อม ที่ทำมีปฏิกิริยาเป็นผื่น ไม่ควรย้อมผมให้ผู้รับบริการ
12.ถ้าจะล้างน้ำยาย้อมผม อย่าใส่แชมพูชนิดแรงๆ หรือชนิดที่เป็นด่าง
13.อย่าใช้น้ำร้อนๆ เพื่อจะล้างสีย้อมผม
14.เพื่อกันการเปรอะเปื้อน ขณะย้อมให้ใช้ผ้าคลุมทับเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
15.ระวังอย่าให้ยาย้อมผมเข้าตา
16.เวลาย้อมผมต้องใส่ถุงมือเสมอ

หลักการเปลี่ยนสีผมหรือการย้อมผม
การเปลี่ยนสีผม หรือการย้อมผม เป็นการเติมสีทางวิทยาศาสตร์เข้าไปในเซลล์สีของเส้นผมทำให้สีของเส้นผมเข้มหรือจางตามต้องการ มีวิธีการเปลี่ยนสีผม 3 วิธี
1.วิธีการเปลี่ยนสีผมแบบย้อมผม
เป็นการเปลี่ยนสีผมโดยใช้ยาย้อมผมชนิดน้ำ ผสมกับไฮโดรเยน ทำให้ผมหงอกขาวเป็นผมสีดำตามต้องการ มีวิธีการปฏิบัติ ดังนี้
1.การผสมน้ำยาย้อมผม น้ำยาย้อมผมจะเป็นน้ำเหลวๆ ผสมกับไฮโดรเยน ลงในถ้วยพลาสติกหรือถ้วยแก้ว ใช้แปรงคนให้เข้ากัน
2.ทำความสะอาดผมให้สะอาดด้วยแชมพู ซึ่งเวลาสระผมห้ามเกาเด็ดขาด เพราะจะทำให้ศีรษะแสบในเวลาย้อมผม
3.การแบ่งผม โดยเป่าผมให้แห้ง และแบ่งผมออกเป็น 4 ส่วน ส่วนกลางหน้าผากไปท้ายทอย และจากหูข้างหนึ่งไปที่หูอีกข้างหนึ่ง
4.การทาน้ำมันแข็ง ให้ทารอบบริเวณหน้าผาก ใบหูและคอ เพื่อป้องกันน้ำยาย้อมผมเปื้อนและเช็ดคำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
5.การใช้ผ้าคลุม ให้ใช้ผ้าคลุมและพลาสติกคลุมทับอีกชั้นหนึ่ง ป้องกันน้ำยาย้อมหยดลงเปื้อนเสื้อผ้า
6.การย้อมผม ถ้าผมหงอกให้ย้อมผมจากด้านหน้า ด้านข้างกลางศีรษะและด้านหลังผมหงอกขาวใช้แปรงแตะน้ำยาย้อมทาจากโคนผมทามาปลายผม ให้สีกลมกลืนกัน
7.การอบผม ให้หวีผมที่ย้อมทั้งหมดรวบขึ้นและหนีบด้วยปากเป็ด นำเข้าอบให้ผมแห้งประมาณ 30 นาที (หรือตามเวลาที่ระบุไว้ข้างกล่องสีแต่ละชนิด)
8.การสระผม เมื่อผมแห้งแล้วสระผมด้วยแชมพู ถ้าหากเปื้อนยาย้อมตามไรผมและผิวหนังใช้สำลีชุบยาดัดเช็ดออก เมื่อล้างสะอาดดีแล้วใส่ครีมนวดผม ล้างผมให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง
9.หลังการย้อมผมเรียบร้อยแล้วขั้นตอนการจัดแต่งทรง ให้ใช้ผลิตภัณฑ์เจล หรือครีมบำรุงจัดแต่งทรงผมใส่เล็กน้อย ก่อนเซ็ทผมตามรูปทรงที่ต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น